เป็นธรรมเนียมและเป็นเรื่องธรรมดา
สำหรับนักปฏิบัติธรรมที่มีคู่ครองในขณะเป็นฆราวาสก็คือ
เมื่อเราเริ่มปฏิบัติธรรมในช่วงแรกๆ
ผู้ที่จะเข้ามาทดสอบอารมณ์หรือกำลังจิตของเราก็คือ คู่ครองของเรา
(สามีหรือภรรยารวมถึงลูก) จะเข้ามาทดสอบด้วยวิธีการต่างๆ
เป็นเรื่องตรงข้ามหรือขัดแย้งกับการกระทำของเราทันที ให้ค่อยๆสังเกตตัวเองนะครับ
เช่น เรื่องเงิน การดูแลครอบครัว การพูดกระทบกระทั่ง(มากสุด)
บางครั้งพูดขึ้นมาลอยๆโดยไม่มีสาเหตุ แต่ในความเป็นจริงแล้ว
คุณเธอทั้งหลายล้วนมีจิตใจงาม เมื่อถึงระยะหนึ่งคุณเธอจะสารภาพออกมาว่า
ไม่ได้ตั้งใจจะกระทำหรอกรู้หมดว่าสิ่งใดดีไม่ดี แต่อารมณ์และความรู้สึกมันพาไป
ด่านนี้จงใช้พรหมวิหารสี่ให้มากที่สุด ดังนั้น หากนักปฏิบัติธรรมได้ก้าวพ้นจุดนี้
(จุดเบสิกที่สุด) จะไปพบกับด่านต่อไปคือ
ความทุกข์ทั้งหลายที่เกิดจากวิบากกรรม จากเหตุคนรอบข้าง หรือโรคภัยต่างๆ
มันจะร้อนดั่งไฟสุมอยู่ในอก สิ่งที่ไม่เคยคาดคิดก็บังเกิดขึ้น
การเรียนรู้วิธีดับทุกข์ก็จะบังเกิดขึ้นตามไปด้วย
(ถ้าไม่มีทุกข์ก็ย่อมไม่เห็นหนทางแห่งการปลดทุกข์ได้นั่นเอง)
ด่านนี้ให้ใช้หลักไตรลักษณ์(อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา)และพรหมวิหารสี่เช่นกัน
ด่านต่อไปคือ การถูกทดสอบจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เมื่อเราเข้าสู่สมาธิชั้นสูงหรือการผ่านด่านที่สองได้แล้ว
ด่านนี้จะเป็นการวัดอารมณ์ว่าจะอยู่หรือจะไป จะทางโลกหรือทางธรรมกันแน่
(คาดว่าปีหน้าผมจะเผชิญด่านนี้ตามคำทำนาย) และด่านอื่นๆใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น
ท่านทั้งหลาย จงนำเอาสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่เห็น สิ่งที่เป็นในขณะปัจจุบัน
ขึ้นมาพิจารณา เรียนรู้มัน เมื่อรู้แล้วก็ละวางมันลงเสีย ปลดเรื่องนี้ได้
จะมีเรื่องใหม่เข้ามา
ก็ใช้วิธีเดียวกันนี้อีกจนเป็นปรกตินิสสัย(เป็นศีลวัตรปฏิบัติ) กระทบมา รู้เร็ว
วางเร็ว ถ้าทำได้ก็จะตรงดิ่งเข้าสู่กระแสพระนิพพานในอนาคตได้อย่างไม่ต้องสงสัยครับ
ดร.นนต์
ปล.
ภรรยาของเราคือคู่บุญและคู่กรรมที่ลงมาบำเพ็ญร่วมกัน อย่าได้ปรามาสเธอเชียวนะครับ
เธออาจแซงทางโค้งก็ได้